GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นักวิชาการชื่อดังมะกัน “ตบหน้า” รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุปล่อยให้ “ระบอบทักษิณ” คงอยู่ คือ ความตายของประชาธิปไตยไทย





ศาสตราจารย์ชาวอเมริกัน ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ ตบหน้ารัฐบาลสหรัฐฯที่ประณามการรัฐประหารยึดอำนาจในประเทศไทย และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในทันที โดยอ้างว่าเป็นหนทางไปสู่ประชาธิปไตย ทั้งนี้ศาสตราจารย์ผู้นี้ ระบุว่า การให้ระบอบทักษิณปกครองประเทศต่อไป ก็คือ การรับประกันให้ประชาธิปไตยในไทยต้องตายดับสูญไปภายในอนาคตอันใกล้นั่นเอง ขณะที่การสนับสนุนการก่อรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหาร อาจจะเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถฟื้นฟูประชาธิปไตยให้กลับคืนมาได้

 ในบทความเรื่อง “Thai coup holds promise of democracy” (รัฐประหารในไทยให้ความหวังแก่ประชาธิปไตย) ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน (W Scott Thompson) ศาสตราจารย์กิตติคุณทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ แห่งวิทยาลัยนิติศาสตร์และการทูตเฟลตเชอร์ (Fletcher School of Law and Diplomacy) มหาวิทยาลัยทัฟต์ส (Tufts University) กล่าวสรุปถึงการรัฐประหารครั้งล่าสุดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และฝ่ายทหาร ได้บังคับขับไสผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีให้ออกจากอำนาจ โดยผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีผู้นั้นได้เข้าทำหน้าที่นี้หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุติการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากมีความผิดในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ในระหว่างที่เธอปกครองประเทศอยู่ ก็คอยรับคำสั่งต่างๆ จากพี่ชายของเธอ -- จอมเผด็จการและอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งหลบหนีไปลี้ภัยอยู่ในต่างแดน
       
       บทความซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. และได้รับการตีพิมพ์ซ้ำต่อๆ มา เป็นต้นว่าในเว็บไซต์กัลฟ์นิวส์ (gulfnews.com) ในวันอาทิตย์ (1 มิ.ย.) ชิ้นนี้ ชี้ว่าประเทศไทยได้ตกอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในการประท้วงทางการเมืองยาวนานแรมเดือนระหว่าง “เสื้อเหลือง” -- ซึ่งเป็นคนไทยในเขตชุมชนเมืองผู้สนับสนุนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกลุ่มผลประโยชน์ชนชั้นนำผู้ต้องการให้รัฐบาลที่ครองอำนาจอยู่ออกจากตำแหน่งไป กับ “เสื้อแดง” -- ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้ยากจนกว่าที่พำนักอยู่ในเขตต่างจังหวัด โดยผู้คนเหล่านี้สนับสนุนทักษิณและหาทางให้เขากลับคืนสู่อำนาจ
       
       “ดังนั้น เมื่อมีนายพลผู้มาดมั่นทะเยอทะยานและมีความสามารถผู้หนึ่ง พยายามที่จะทำให้ประเทศชาติมีเสถียรภาพ -- โดยที่ในขณะนี้เขาก็ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เข้าดำรงตำแหน่งด้วย – มันจึงมีความเป็นไปได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ว่า เขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการรัฐประหารทั้งหลายนั้นใช่ว่าจะเลวร้ายไปเสียทั้งหมด” ศาสตราจารย์ชาวอเมริกันวัย 72 ปีผู้นี้ระบุ
       
       ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน ซึ่งเคยทำงานอยู่ในคณะรัฐบาลอเมริกัน ทั้งของประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด และของประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน โดยที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯด้วย ชี้ว่า ความปั่นป่วนสับสนทางการเมืองในประเทศไทยนั้นมีรากเหง้าที่ลึกซึ้ง
       
       ในบทความนี้ เขาชี้ว่า ประเทศไทยต้องประสบโชคร้าย เฉกเช่นเดียวกับเยอรมันในยุคทศวรรษ 1930 และอิตาลีในยุคทศวรรษ 1920 ทำให้ได้นักหลอกล่อฉวยโอกาสทางการเมืองซึ่งเที่ยวให้สัญญาต่างๆ มากมาย เข้าครองอำนาจปกครองประเทศ

นักวิชาการชื่อดังมะกัน “ตบหน้า” รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุปล่อยให้ “ระบอบทักษิณ” คงอยู่  คือ ความตายของประชาธิปไตยไทย

  “ทักษิณนั้นทำเงินได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ล้านในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ และได้เริ่มซื้อเหล่านักหนังสือพิมพ์ตลอดจนนักการเมืองทางภาคเหนือมาเป็นพวก เขาชนะการเลือกตั้งในปี 2001 อย่างถล่มทลาย และก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของเขา เขาดำเนินการปิดกั้นส่วนต่างๆ ของสื่อมวลชนซึ่งเขายังไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนั้น มีรายงานว่ามีผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยๆ 3,000 คน ถูกฆ่าตายในสงครามปราบปรามยาเสพติดของเขา อีกทั้งแสดงให้เห็นอย่างเต็มตาว่าเขาจะยังครองอำนาจต่อไปอีกยาวนาน” บทความชิ้นนี้กล่าว
       
       “ทฤษฎีเรื่องประชาธิปไตยนั้นไม่เคยเลยที่จะหมายความอย่างง่ายๆ เพียงแค่ว่า การปกครองโดยคนส่วนใหญ่ แน่นอนทีเดียวว่าทักษิณก็ใช้กลไกด้านการตรวจสอบและการคานอำนาจด้วย แต่เป็นชนิดที่แตกต่างออกไป โดยที่เขานำมาใช้เพื่อกระชับฐานอำนาจของเขาให้เข้มแข็ง ทั้งในกิจการตำรวจ และก็ในกองทัพด้วย ถึงแม้มีหลักฐานว่าเขาประสบความสำเร็จน้อยกว่า …”
       
       ศาสตราจารย์อเมริกันผู้นี้ กล่าวว่า “เป็นเรื่องยากลำบากเสมอที่จะอ้างเหตุผลความชอบธรรมให้แก่การทำรัฐประหาร แม้กระทั่งในกรณีที่เป็นการเข้าแทนที่ระบอบปกครองที่ย่ำแย่เต็มที”
       
       อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า “ถ้าหากจะให้เหตุผลความชอบธรรมแก่การต่อต้านการรัฐประหารคราวนี้ ก็จำเป็นจะต้องไปให้ความสนับสนุนต่อทักษิณ บุรุษผู้ซึ่งจะไม่ยอมอดทนต่อการคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งจากสถาบัน และเป็นผู้ซึ่งจะปกครองด้วยกำปั้นเหล็กตราบเท่าที่เขา - หรือผู้ที่เขาคัดเลือกให้มาสืบทอดต่อจากเขา ยังมีชีวิตอยู่”
       
       “โดยส่วนตัวแล้ว ผมมีความประหลาดใจว่า นายพลผู้นี้ (พล.อ.ประยุทธ์ ) ได้รอคอยมาเป็นเวลายาวนานถึงขนาดนี้ เขาเดินหมากของเขาด้วยความระมัดระวังมาก ด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึกอย่างเป็นกลางๆ ในวันหนึ่ง แล้วจึงเข้ายึดอำนาจในอีกวันหนึ่ง กองทัพไทยไม่ได้ผลิตนายพลที่มีความสามารถอันเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางขนาดนี้เลยในรอบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา”
       
       ดับเบิลยู สกอตต์ ธอมป์สัน กล่าวในตอนสรุปบทความของเขาว่า “การเลือกให้ระบอบทักษิณปกครองประเทศต่อไป ก็คือการรับประกันให้ประชาธิปไตยในไทยตายดับสูญไปภายในอนาคตอันใกล้ ขณะที่การสนับสนุนการก่อรัฐประหารยึดอำนาจของฝ่ายทหาร อาจจะ (แค่อาจจะ) เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถฟื้นฟูประชาธิปไตยให้กลับคืนมาได้ ความจริงทางประวัติศาสตร์ทั่วๆ ไปนั้นมีอยู่ว่า ระบอบปกครองต่างๆ ที่นำมาซึ่งระเบียบเรียบร้อย อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย ขณะที่แทบไม่ปรากฏเลยว่าระบอบปกครองในทางตรงกันข้ามจะสามารถทำอะไรเช่นนี้ได้ ทั้งนี้ระบอบปกครองที่ปล่อยให้ทำอะไรตามใจนั้น มีความโน้มเอียงที่จะนำไปสู่การปราบปรามอย่างรุนแรง ซึ่งกลายเป็นการสร้างความย่อยยับให้แก่การปกครองอันเรืองปัญญา”




เรื่องราวการซื้อ Nation group ของ SLC ภายใต้นอมินี การซื้อครั้งนี้เท่ากับว่าทางกลุ่มชินวัฒน์จะมีช่องฟรีทีวี 6 ช่องอยู่ในมือ ประกอบด้วย ช่อง Voice , Spring News ,Nation TV, Bright TV , One และ GMM ซึ่งคิดเป็น 25% ของทีวีดิจิตอล ทำให้มีอำนาจต่อรองโฆษณาที่สูงขึ้น การทำ Cross Chanel ก็จะมีมากขึ้น ในมุมของการเมือง เท่ากับว่า จะเป็นทางของการชี้นำผู้คน เพราะช่องข่าวอยู่ในมือไปแล้วกว่าครึ่ง หมอดูที่ชี้ว่า ทักษิณ หมดฤทธิ์ คงต้องกลับไปเผาตำราแน่ๆ งานนี้คงต้องตามกันอย่างใกล้ชิดครับ... โมเดลความสัมพันธ์ภาพของ SLC และกลุ่มชินวัตร
การวางแผนซื้อครั้งนี้ เริ่มจากเข้าซื้อสื่อครั้งแรกคือการเข้าซื้อ"กลุ่มมติชน" ในช่วงเวลานี้ ทำการไล่พวกหัวแข็งและไม่มีอุดมการทางเดียวกันออก ในระยะแรกมีการปรับเปลี่ยน บก.หลายคนออก รวมถึงพี่เก้ ออก แล้วให้หลานชายของคุณช้างเข้ากุมอำนาจเบ็ดเสร็จในมติชนและข่าวสด จากนั้นทาง SLC ก็เข้าซื้อสื่อในกลุ่ม Nattion โดยเอาหุ้นในมือที่เสริมสินรวบรวมมาให้ ขายต่อ SLC
การซื้อ Tnews เป็นอีกหนทางในการหยุดปากของสนธิญาน เพราะ Tnews ไม่ใช่ของสนธิณานแต่เพียงผู้เดียว มีหุ้นส่วนที่อยู่เบื้องหลังอีก (อันนี้เดี๋ยวจะเอามาเล่าให้ฟังที่หลัง) แล้วยังให้สนธิณานดำเนินการบริหารต่อไป เพียงแต่จะบีบให้เดินในทางที่กำหนด
ทำไมถึงต้องซื้อ Tnews ด้วย
การซื้อ Tnews เป็นการกรันตีว่า หากกลุ่มของหยุ่น พลักออกจาก nation จะมีผู้ที่สามารถดำเนินการงานข่าวได้ โดยจะเอาขุมกำลังทั้งจาก มติชน และ Tnews เข้ามาเสียบ เพราะ Nation ได้วางรากฐานทั้ง TV หนังสือพิมพ์ วิทยุ ออนไลน์ ไว้ได้อย่างเข้มแข็งพอควร ในการต่อยอดทำได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญทัพหลวงของคนข่าวยังอยู่ที่ Voice TV ที่พร้อมจะสานงานนี้ต่อ
ภาพของพี่ชิน ที่โดนปรับเปลี่ยนจาก ผอ.ช่อง คงเตรียมพร้อมที่จะเข้าบริหาร Nation ในไม่ช้านี้ เพราะทั้งฝีมือ การยอมรับ ความซื่อสัตย์ ต่อกลุ่มชิน ไม่ต้องสงสัยในตัวพี่ชิน ยิ่งภาพนี้ด้วยคงน่ากลัวขึ้นมากแผนของทักษิณจะซื้อสื่อมาเป็นเครื่องมือของตน


กับดักของรัฐวิสาหกิจ
โดย สิริอัญญา 
วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2557
หลังมีการยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 แล้ว ดูเหมือนว่า คสช. จะเห็นปัญหาโคตรโกงที่โกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงในรัฐวิสาหกิจเกือบ 60 แห่งทั่วประเทศ จึงได้ตั้งซุปเปอร์บอร์ดเพื่อกำกับ ควบคุม การทำงานของรัฐวิสาหกิจทั้งหลายให้เป็นไปโดยถูกต้อง เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน
บอร์ดบางคน บางหน่วย ที่เหม็นเน่าฉาวโฉ่ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเอาคนใหม่เข้าไปแทน ซึ่งบางส่วนก็เป็นนายทหาร บางส่วนก็เป็นผู้มีรายชื่อในบัญชีผู้มีคุณสมบัติมาตรฐานที่จะดำรงตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจตามที่กระทรวงการคลังได้จัดทำไว้
ตั้งไปตั้งมาบัดนี้เป็นเวลาล่วงเข้าเดือนที่ 7 แล้ว ปรากฏว่าการขยับขับเคลื่อนรัฐวิสาหกิจทั้งหมดแทบไม่ก้าวรุดหน้าไปไหนเลย วัน ๆ มีแต่เรื่องเน่าฉาวโฉ่ และเรื่องราวที่ก่อความเดือดร้อนให้แก่อาณาประชาราษฎร์อย่างแสนสาหัส โดยเฉพาะในเรื่องการขนส่งและพลังงาน
แม้กระทั่งองค์กรที่มีหน้าที่โดยตรงในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรก็ทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจไยดีที่จะแก้ปัญหาทุกข์ร้อนของราษฎร ตามที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการมากหลาย เพื่ออุ้มชูชาติและราษฎรให้พ้นจากทุกข์เข็ญ
หลายหน่วยงานก็รู้ดีกันอยู่ว่า เมื่อตั้งบอร์ดใหม่เข้าไปแล้วไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก็ดี หรือยังเป็นบอร์ดเก่าอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วนก็ดี แต่พอมีคนส่งสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 คนทั้งหลายก็พากันเข้าเกียร์ว่างเพราะไม่แน่ใจในอนาคตของตนว่าจะเป็นอย่างไร จึงพากันรักษาตัวรอดเป็นยอดดี อยู่ไปวันๆ จนปัญหาแก้ไขอะไรแทบไม่ได้
บางหน่วยงานรู้ทั้งรู้อยู่ว่าบอร์ดมีปัญหา เป็นขี้ข้านักการเมือง ยังคงรับคำสั่งนักการเมืองโกงกินอยู่ทุกขั้นทุกตอน แต่จะปรับเปลี่ยนคนใหม่ก็ขัดสน เพราะการจะเปลี่ยนคนใหม่นั้นก็ต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อคุณสมบัติมาตรฐานของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
ครั้นดูรายชื่อแล้วก็ปรากฏว่าบรรดาผู้มีรายชื่อจำนวนมากเป็นลิ่วล้อบริวารนักการเมืองเก่าที่ชงชื่อรอไว้ เผื่ออำนาจวาสนาจะมาหล่นลงบนเท้า ก็จะได้เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจเข้าไปโกงกินกันต่อไป
จึงเป็นเหตุให้ไม่มีการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายหน่วยงาน ทั้งที่ของเก่าก็เน่า จะเปลี่ยนของใหม่ ของใหม่ก็เน่าเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะทำกันอย่างไร ได้แต่ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ขยับไม่ได้ ก้าวขาไม่ออก ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
มิหนำซ้ำ รัฐมนตรีที่มีอำนาจก็วางเฉย เพราะไม่อยากจะมีความขัดแย้งกับใครเนื่องจากคิดว่าอีกไม่นานก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว ก็อยู่กันไปวัน ๆ หนึ่ง
สภาพเช่นนี้จึงเป็นที่หวานหมูของนักการเมืองที่เคยมีอำนาจหรือที่เคยวางเอาขี้ข้าบริวารไว้เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจหรือเป็นผู้บริหารในรัฐวิสาหกิจ เพราะสามารถโกงกินกันได้เหมือนเดิม
แล้วจะทำอย่างไรกันดี? เพราะจะปล่อยสภาพเช่นนี้ไว้ก็ไม่ได้ จะเปลี่ยนแปลงรึก็จะได้คนใหม่ที่เลวร้ายไม่ต่างจากเดิม แต่สรรพสิ่งนั้นขอเพียงไม่อับจนปัญญาก็สามารถแสวงหาทางออกได้เสมอ และเมื่อใคร่ครวญพิจารณาแล้วก็เห็นว่าหนทางแก้ไขปัญหานี้ก็ต้องเป็นไปตามพระพุทธวจนที่ว่าเหตุอยู่ที่ไหน ต้องแก้ไขที่นั่น
นั่นคือเมื่อเหตุของการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ที่บัญชีผู้มีคุณสมบัติมาตรฐานในการดำรงตำแหน่งรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลัง ก็จะต้องยกเลิกเพิกถอนบัญชีเหล่านี้เสียทั้งหมด แต่ถ้าหากจะเพิกถอนส่งเดชไปก็อาจจะถูกฟ้องดำเนินคดีต่อศาลให้ได้รับความเสียหายได้ จะแก้ไขกฎหมายหรือจะตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ ก็ต้องใช้เวลานาน ไม่ทันการณ์ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง
ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่หัวหน้า คสช. จะต้องพิจารณาถึงความร้ายแรงของปัญหาโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง ปัญหาไร้ประสิทธิภาพ อันเป็นอุปสรรคขัดขวางการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนว่ามีน้ำหนักเพียงพอที่จะต้องแก้ไขด้วยอำนาจพิเศษหรือไม่
ถ้าพิเคราะห์โดยกว้าง โดยลึกแล้ว เห็นจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหานี้ ก็มีหนทางที่จะทำได้ นั่นคือใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ออกคำสั่งให้ยุบเลิกบัญชีผู้มีคุณสมบัติมาตรฐานในการดำรงตำแหน่งรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลังเสียทั้งแผง
จากนั้นก็ให้กระทรวงการคลังประกาศโดยทั่วไป ให้คนดีมีฝีมือทั่วแผ่นดินที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายของรัฐวิสาหกิจแสดงความจำนงสมัครเข้าเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ แล้วทำการเลือกสรรบรรจุลงไว้ในบัญชีผู้มีคุณสมบัติมาตรฐานที่จะดำรงตำแหน่งรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลังได้
หลังจากนั้นก็อาจจะไล่ตะเพิดบอร์ดซังกะบ๊วยเส็งเคร็งทั้งหลายออกไป แล้วตั้งคนใหม่จากบัญชีมาตรฐานนั้นเข้าดำรงตำแหน่งแทน ก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจให้ลุล่วงไปได้.



ภาพนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ เก็บไว้ให้ดีครับ!!! พิธีการลงนามความร่วมมือรถไฟทางคู่และสินค้าเกษตร ไทย-จีน
สังเกตนายกทั้งสองไม่ได้ยืนข้างหลังรัฐมนตรีที่ลงนามเหมือนปกติทั่วไปแต่นั่งเป็นประธาน เหมือนนั่งคุยกัน เป็น กันเองมากๆครับ นี่คือภาพสะท้อน ไท้จง อี้เจียชิน ตามลายพระอักษรที่สมเด็จพระเทพฯทรงชี้แนะนะครับ
ตอนนี้รัฐบาลจีนสั่งทุกหน่วยงานสนับสนุนรัฐบาลไทยเต็มสูบ ในขณะที่อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ก็เตรียมทำความตกลงมากมาย ส่วนประเทศอาเซี่ยนปั๊กอยู่แล้วครับ โลดเลย

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY