GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL

GREAT KING OF THAILAND, KING BHUMIBHOL
LONG LIVE THE KING BHUMIBHOL

วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ใครให้ทุนกลุ่มล้มเจ้าในไทย? /"มะกัน อันตราย" อีกสักที !







ใครให้ทุนกลุ่มล้มเจ้าในไทย? 
Cr:สำนักข่าวเจ้าพระยา
การเดินเกม แทรกแซงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนการรวมตัว อาเซียน โดยเฉพาะ ประเทศไทยของสหรัฐ กำลังรุนแรงขึ้นและต่อเนื่องมาหลายปี โดยการสนับสนุนเงิน ทุนให้ NGO และนักวิชาการให้กลับหลังหันทำลายประเทศของตนเองซึ่งเป็นหัวใจของอาเซียน นั่นเอง
จากการออกข่าวของ tony cartalucci นักวิชาการด้าน ตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ที่ได้นำเสนอข่าว เกี่ยวกับเงินทุน”ฟรีดอมเฮ้าส์ และกองทุนเพื่อประชาธิปไตย”ของสหรัฐฯ กับแนวทางการสนับสนุนเงินทุน ให้กับการเคลื่อนไหวในประเทศไทยเพื่อลดทอนความมั่นคงของชนชาติตนเอง โดยเฉพาะกลุ่ม ขบวนการ นิติราษฏร์ ที่เคยต่อสู้เพื่อการแก้กฏหมายในหมวดความมั่นคง อย่าง ป.อาญา มาตรา112 ที่เกี่ยวกับการอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยโดยมีนัยยะแอบแฝงทางการเมือง โดยสนับสนุนการเคลื่อนไหวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่อยู่นอกประเทศ เพื่อเลี่ยงการจับกุมในคดี คอร์รัปชั่น …”
ยังมีข้อสังเกต และต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กับ อดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุชและ นาย จอร์จ โซรอส (อดีตสมาชิกในคณะกรรมการของCouncil on Foreign Relationsและ เป็นผู้ก่อตั้ง Open Society Institute) ซึ่งอาจจะเป็นความเชื่อมโยงกันทางการเมือง และเงินทุนที่ไม่มีวันหมดของ ทักษิณ ชินวัตร ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้กับสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ จากติดตามข้อมูลข่าว แหล่งข่าวต่างประเทศบางแห่งระบุว่า ฟรีดอมเฮ้าส์ – Open Society Institute และ องค์กรส่งเสริมประชาธิปไตยแห่งชาติ “National Endowment for Democracy” (NED) ได้มีการ สนับสนุน กลุ่มนักวิชาการที่รวมตัวอย่างชั่วคราว ในชื่อ”นิติราษฏร” – เว็บไซต์ ประชาไท และ นักกิจกรรมเยาวชนต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กลุ่มเงินทุน โดยกล่าวอ้างว่า สนับสนุนสิทธิมนุษยชน และ สนับสนุนประชาธิปไตย แต่แท้จริงแล้ว กลับนำไปสนับสนุนช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร และสนับสนุนในการลดทอนอำนาจเก่าที่เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของประเทศไทย

http://altthainews.blogspot.com/2013/12/us-funded-pro-democracy-propagandists.html

แต่ในข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่สามารถ ตั้งสมมุติฐานได้ว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นทาสของสหรัฐแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนว่าเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน ระหว่าง สหรัฐและ ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการแทรกแซงความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของ “อาเซียนทั้ง10ประเทศ” ที่กำลังจะกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งเปรียบเสมือน สนามหลังบ้านของประเทศจีน ตามแนวทางของ เฮนรี คิสซินเจอร์ อดีต ที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา (NSA) ปี พ.ศ. 2516ที่กล่าวว่า…

“ผู้ควบคุมการผลิตอาหารก็ควบคุมประชาชนได้ ผู้ควบคุมพลังงานก็สามารถควบคุมทวีปต่างๆได้ทั้งหมด ผู้ควบคุมกระแสเงินตราได้สามารถควบคุมโลกได้"

แนวคิดการบริหารการจัดการและ ควบคุมโลก เพื่อความมั่นคงของสหรัฐ โดย “ผู้นำกลุ่มทุน”

ทั้งนี้ ตั้งแต่ คณะ คสช.ในการนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งกระทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวของทักษิณ ชินวัตร ผู้พลัดถิ่นนอกประเทศเพื่อเลี่ยงคดีคอร์รัปชั่น แนวทางการเคลื่อนไหว ของผู้สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร มีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเพราะ ล่าสุด มีการฟอร์มทีมใหม่ ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็น “เหล้าเก่าในขวดใบใหม่” ดึงขบวนการกลุ่มอดีตนักการเมืองไกล้ตัวทักษิณ ชินวัตร และ นักวิชาการสายการเมืองที่ต่อต้านอำนาจเก่าที่เหลือรอดออกนอกประเทศสำเร็จมารวมตัวกับ กลุ่ม “ผีโม่แป้ง” ในต่างประเทศ (มีอยู่หลากหลายคน เช่น อดีตแกนนำแดงสยามที่เคลื่อนไหวในอังกฤษ – อดีตผู้นำกลุ่มมดแดงล้มช้าง ซึ่งลี้ภัยไปเคลื่อนไหวในประเทศเยอรมัน – อดีตแกนนำกลุ่ม “คนเคยรักเจ้า”ที่เคลื่อนไหวในประเทศสวีเดน และ ดูไบ – กลุ่มนักเคลื่อนไหวต้านสถาบันเบื้องสูงของไทยในสหรัฐ และ ออสเตรเลียเป็นต้น) ซึ่งทั้งหมด ล้วน เป็น NGOs ที่ไกล้ชิดกับ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น มารวมตัวจัดตั้งแนวรบใหม่ ชื่อ “องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษย์ชน” ซึ่งอ้างอิงมาจากแนวคิดของ ขบวนการเสรีไทยของ ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งได้การสนับสนุนโดยสหรัฐมาตลอดนั้นเอง ทั้งนี้ บางส่วนของกลุ่มขบวนการฯ ก็ จัดตั้ง “ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษย์ชน” ซึ่งได้การสนับสนุนจากทักษิณโดยตรง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา เพื่อชงเรื่อง “ความสั่นคลอนทางประชาธิปไตยและการริดรอนสิทธิในการประท้วง คสช.” ให้ HUMAN RIGHT WATCH และส่งลูกให้นักล๊อบบี้ยิสต์ชงประชาคมโลกดำเนินการกดดันประเทศไทย ซึ่งตรงกับท่าทีของสหรัฐ และท่านทูตที่ออกมากดดัน คว่ำบาตรไทย ทำให้ มิตรภาพ กว่า180ปี ระหว่างไทยและสหรัฐ อาจจะร้าวลึกถึงขั้นแตกหักได้
แนวทางกลยุทธ์ ล๊อบบี้โลกโดยใช้ กลุ่ม”นักวิชาการ” เขียนประวัติศาสตร์ที่ ไม่ตรงกับความจริง ดูเหมือนว่ากำลังทยอยเริ่มขึ้น เพื่อเปิด”ทางด่วน” ให้ โลกตะวันตกที่กำลังพบกับสภาวะ ขาดแคลนอาหารได้เข้าแทรกแซงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารและพลังงานวัตถุดิบเพื่อระงับการเจริญเติบโตของจีนที่มีมิตรภาพอันดีกับประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยที่เป็นหัวใจของอาเซียนในทางเศรษฐกิจ และประเทศไทยก็มีศูนย์กลางทางจิตใจของคนไทยที่มั่นคงอย่างสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่น่าแปลกใจ ถ้าจะมีใครเลือกจะโจมตีใส่ร้ายสถาบันเบื้องสูง เพียงเพื่อต้องการเปลี่ยนจิตใจประชาชน แทรกแซงอำนาจ เพื่อแก่งแย่งผลประโยชน์ในประเทศไทยตามนโยบายทางการทหาร ที่ว่า “Divide and Rule แบ่งแยกแล้วปกครอง”
ต่อจากนี้จะเป็นสมมุติฐานที่น่าสนใจที่ว่า กองทุนเพื่อประชาธิปไตยของสหรัฐฯ (NED), ฟรีดอมเฮาส์ และ Open Society Institute ที่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง กับ CIA และ พ่อมดการเงิน จะมีส่วนของการ สนับสนุนเงินทุน ให้ ทักษิณ ชินวัตร, กลุ่มขบวนการ เสรีไทย และ ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อปลุกระดมคนไทยให้กระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาลไทยในปัจจุบัน เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่?!
-------
ปราชญ์ สามสี



"มะกัน อันตราย" อีกสักที !

การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

ความจริงที่ต้องเปิดใจยอมรับ "สหรัฐอเมริกา" คือผู้อยู่เบื้องหลังปัญหาความวุ่นวายทั่วทั้งโลก ไม้เว้นแม้แต่ภัยพิบัติที่เราเรียกว่า "ภัยธรรมชาติ" สหรัฐอเมริกาก็สามารถเสกคาถาทำให้เกิด "ภัยพิบัติเทียม" เลียนแบบธรรมชาติได้แบบเนียน ๆ ทั้ง ฝนตกหนัก แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม ภูเขาไฟระเบิด อยากได้แบบไหนแค่กดปุ่ม

ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ทันมะกันเพราะไปเสพหนังจากฮอลลีวู๊ดมากเกินไป มะกันเลยกลายเป็นพระเอกตลอดการไง

การเมืองมะกันและผลประโยชน์มหาศาลมันซ่อนอยู่ในวัฒนธรรมแล้วส่งออกนำไปมอมเมาคนทั้งโลก โลกนี้จะไม่มีวันสงบเพราะมะกันจะยอมให้มีความสงบเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้าสงบมันมะกันมันจะขายอาวุธให้ใคร มันจึงต้องกระตุ้นสร้างเรื่อง สร้างสงครามยั่วยุให้ภูมิภาคต่าง ๆทั่วโลกทะเลาะเบาะแว้งกันแล้วก็ขายอาวุธให้ทั้งสองฝ่าย ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันไปตายกันเป็นเบือ แต่มะกันได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งร่องไม่ว่าฝ่ายไหนจะตาย หน้าฉากก็ทำทีใช้การทูตเดินเกมส์แต่ไม่ได้จริงใจที่จะให้ปัญหาจบ ระยำมั๊ยล่ะ

มันจะระยำขยาดไหน ก็ขนาดฝ่ายการเมืองที่มีผลประโยชน์มหาศาลสามารถสั่ง "ฆ่า" คนตัวเอง ตายเป็นเบือในกรณี 911 แล้วโยนบาปหาเรื่องว่าเป็นการทำของ "ผู้ก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรง" เพื่อหาเรื่องเบิกงบประมาณจากสภาคองเกรส เพื่อทำสงครามเข้ายึดอัฟกานิสถาน หาเรื่องเข้ายึดอิรักแล้วไง กรณีอิรัก "ฆ่า" ซัดดัมจนตายทั้งครอบครัว ทำลายประเทศเขาซะป่นปี้ เจอมั๊ยอาวุธมหาประลัยที่กล่าวอ้าง มะกันสร้างเรื่องทั้งนั้น

พอโลกจะเริ่มสงบก็สร้างตัวละครใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า "ผู้ก่อการร้าย" ซ้ำซากทำทีเป็นหัวเรือหัวหอกไล่ล่าที่แท้หลอกขายอาวุธให้รัฐบาลพันธมิตรหน้าโง่ ๆ ทั้งหลาย (ไทยก็สมัยไอ้แม้วและรัฐบาลเครือข่ายมันไงซ้ือมาตั้งหลายอย่าง)

แต่ก่อน "โอซามะ บินลาดิน" แห่ง "อัลเคด้า", โมฮัมหมัด มูอา" แห่ง "ตาลีบัน" ก็เคยทำงานร่วมกับหน่วยสืบราชการลับของมะกัน หรือ "ซีไอเอ" มาแล้วทั้งนั้นในสมัยมะกันทำสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต มาวันนี้กลับหักหลังเขาไล่ล่าฆ่าฟันเขา

ปัญหา "อาหรับสปริง" (Arab Spring) ก็ใช่ รวมทั้งปัญหาชายแดนใต้มะกันก็มีเอี่ยวอีกนั่นแหละ ...

ปัญหาที่เกิดขึ้นใน "ปาเลสไตน์" ขณะนี้ที่เราเห็นภาพสลดใจหดหู่ที่เด็กเล็กตายเป็นเบือนั่น ก้มะกันอีกแหละ

ปัญหาใน ซีเรีย และ ปัญหา ในตอนเหนืออิรักและซีเรียที่กลุ่ม "ISIS" กำลังต่อสู้กับ รัฐบาลซีเรีย และ รัฐบาลอิรัก อยู่ในขณะนี้ มะกันอยู่เบื้องหลังทั้งนั้

มะกันมันสร้างเรื่อง สร้างเหตุการณ์ "โกหก" ชาวโลกจนสิ่งที่มันโกหกนั้นพอคนเสพเข้ามาก ๆ กลายเป็นเรื่องจริงที่น่ากลัวไปเลย

หันมาดูประเทศไทยเราบ้างวิธีการเดียวกันนี้ ไอ้แม้ว ก็เอามาใช้สร้างเรื่องสร้างสถานการณ์ในการก่อหวอดในเมืองไทยเหมือนกัน โดยมี ซีไอเอ อยู่เบื้องหลังให้ท้ายไอ้แม้วมัน

ขนาดคนกระจอกอย่างตูยังรู้เลยแล้วหน่วยข่าวกรองไทยและฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะกองทัพจะไม่รู้เชียวหรือ

เหมือนที่ฮอลลีวูดสร้างตัวละคร "แมนดาริน" เป็นผู้ก่อการร้ายในเรื่อง "ไอรอนแมน ภาคสาม" นั่นไงทำนองเดียวกัน "ตลกร้าย" ...

กรณีไอ้แม้วหากโชคดีการจัดงานวันเกิดที่ "แพริส" ครั้งนี้ เพื่อนรักอย่าง "ซีไอเอ" แห่งเมืองมะกันของ "ชายแม้ว" อาจให้ของขวัญชิ้นโต โดยให้ใช้เรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมยุทโธปกรณ์เต็มอัตราศึกมาใช้ลอยลำในอ่าวไทยเพื่อใช้เป็นฐานบัญชาการลอยน้ำภายหลังการจัดตั้ง "รัฐบาลพลัดพราก" ได้สำเร็จตามที่ "ไอ้แกย์ขี้คุย โด่ง อนันตชัย อนันตเมฆ" ได้ประกาศไว้ไม่นานมานี้ว่าจะมีประเทศมหาอำนาจใหญ่จะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาให้ใช้ ว่าแต่ขอแนะนำให้เลือกเอาลำล่าสุดนะทันสมัยดีชื่อ "จอร์จ ดับเบิลยู บุซ" มูลค่า แค่ 8,000 พันล้านเหรียญ เอง (เรื่อนิมิตลำเดิมมันเก่าไปอาวุธก็ล้าสมัย) ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ตอนนี้น่าจะลอยลำอยู่ที่บริเวณอ่าวเปอร์เซีย แม้วส่งลิ่วล้อเอาเรือเอี๊ยมจุ้นไปลากมาได้เลย ... 555 ...

แต่ขอเตือนไอ้แม้วด้วยความหวังดีนะ ระวังไว้เถอะวันไหน "ซีไอเอ" เบื่อมรึงขึ้นมาเมื่อไหร่ เพราะมรึงยังยึดประเทศไทยและขึ้นชั้นเป็น "ประมุข" ไม่ได้สักที ชะตากรรมมรึงท่าจะไม่พ้นเหมือน "โงดินเดียม" อดีตประธานาธิบดีแห่งเวียดนามใต้ ที่ "ซีไอเอ" สนับสนุนมาตลอด เมื่อใช้งานแล้วเจือกทำงานไม่สำเร็จ "ซีไอเอ" นั่นแหละมันจะเก็บลื้อเอง ไม่ได้เขียนให้ลื้อกลัวนะแต่เป็นเรื่องจริง ระวังตัวไว้ก็ดี ... 555 ......

หมายเหตุ :

"ซีไอเอ" เป็นชื่อย่อหนวยสืบราชการลับของมะกัน มีชื่อเต็มว่า "Central Intelligence Agency" หรือ "CIA" หรือ "หน่วยงานป่วนโลก" แต่ก่อนมีคู่แข่งคือ หน่วยสืบราชการลับของสหภาพโซเวียตที่ชื่อหน่วย "เคจีบี" :"KGB" ส่วน หน่วยสืบราชการลับของสาธารณรัฐเยอรมัน ในปัจจุบัน คือ "บีเอ็นดี" : "BND"






By คุยกับหม่อมกร
เชิญไปเยี่ยมชมบ่อน้ำมันดิบ ที่วิเชียรบุรี ศรีเทพ
ขอให้เข้าใจตรงกันว่า "ประเทศไทยไม่มีน้ำมันดิบ" นะครับ
เพราะหลังให้สัมปทาน น้ำมันดิบเป็นของต่างชาติ ไม่ใช่ของชาติครับ 
ระบบแบบนี้เหลือเพียงไทยประเทศเดียวในอาเซี่ยน

ตอนนี้เพื่อนบางคนที่หนุนพรรคฝ่ายค้าน ออกมาหนุนสัมปทานอย่างหนัก และให้บอกต่อๆกันว่า "ประเทศไทยไม่มีน้ำมันดิบ ถ้ามี ก็มีน้อยมาก" เขาบอกว่าพูดอย่างนี้เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของชาติ! ขอให้รีบๆให้สัมปทานเถอะ เพื่อความสุขความเจริญของประชาชน! ผมว่าปัญหาที่ประเทศไม่สามารถก้าวไปสู่ทิศทางที่ดีได้เพราะ ระบบเล่นพวก! ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอะไร พวกว่าไง ก็ว่างั้น!

คสช.จึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนแล้วนะครับ ขอความกรุณาประชาชนด้วยครับ

"เปลว สีเงิน" ออกตัว... หนุนเชียร์กลุ่มทุนพลังงานเต็มตัว

::: ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ :::
::: นักหนังสือพิมพ์ใหญ่ "เปลว สีเงิน" ออกมาเล่นบทองครักษ์พิทักษ์กลุ่มทุนพลังงาน โดดป้องนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด บมจ. ปตท. อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู หาว่าพวกที่ต่อต้านคัดค้านนายปิยสวัสดิ์ ขึ้นเป็นประธานบอร์ดปตท. เป็นพวกโกรธแค้น จะเอาเป็นเอาตายและโวยวายยังกะประเทศไทย “เสียกรุง” ครั้งที่ 3 ...
::: อันที่จริง การไม่เอานายปิยสวัสดิ์ ไม่ใช่การโกรธแค้นส่วนตัว แต่เป็นเพราะผลงานที่ผ่านๆ มาของคนๆ นี้ และกลุ่มคนที่มีแนวความคิดเฉดเดียวกันนี้ ที่กำหนดนโยบาย บริหารจัดการด้านพลังงานมาตลอดกว่า 30 ปี ซึ่ง เปลว สีเงิน ชื่นชมนักหนานั้น มันสร้างความทุกข์ระทมให้กับประชาชนจนเกินพอแล้ว ในทางกลับกัน ปตท.และบรรษัทพลังงานข้ามชาติ ที่สูบกินสมบัติที่บรรพชนปกป้องรักษาไว้ให้ลูกหลานชาวไทย กลับร่ำรวยเอา ร่ำรวยเอา …..หรือจะปฏิเสธว่ามันไม่จริง? ...
::: กำไร ปตท. เป็นแสนล้าน ขณะที่ประชาชนจ่ายค่าน้ำมัน 2 ลิตรร้อย ค่าก๊าซฯ ก็ขึ้นไม่หยุด เอาเงินกองทุนน้ำมันที่รีดจากผู้ใช้น้ำมันมาชดเชยให้ปตท.ตามราคาก๊าซตลาดโลก ล้วงเอาจากประชาชนทั้งนั้น แล้วจะให้คนเขาหลับหูหลับตาสรรเสริญเยินยอกันต่อไป คงไม่ไหว ...
::: เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาสาเข้ามาหยุดยั้งความแตกแยกและนำพาปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งหัวใจก็คือการปฏิรูปพลังงาน อันเป็นรากฐานสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศที่ส่งผลสะเทือนไปทุกด้าน ประชาชนคนไทยเขาจึงมีความหวังว่า คสช.ควรคิดใหม่จัดการใหม่กับปัญหาเรื่องพลังงานของประเทศเสียที ...
::: แต่เมื่อสุดท้ายแล้ว “คุณสมชาย” ก็ยังเชื่อแนวคิด วิธีคิด วิธีการบริหารจัดการพลังงานแบบเดิมๆ จากคนหน้าเดิมๆ ที่เวียนเข้าเวียนออกสลับเก้าอี้ดนตรี สวมหมวกหลายใบ เดี๋ยวเป็นข้าราชการระดับสูงในหน่วยงานรัฐ เดี๋ยวเป็นกรรมการในคณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายพลังงานของชาติ ประเดี๋ยวเป็นบอร์ด ปตท. ที่ได้ประโยชน์จากการกำหนดนโยบายนั้นๆ เสียงจากประชาชนก็ต้องร้องยี้ เป็นธรรมดา ไม่ใช่ยี้แค่บอร์ด ปตท. เขาเริ่มยี้ คสช. กันแล้ว ...
::: ไม่ว่าจะเป็นนายปิยสวัสดิ์, นายพรชัย รุจิประภา หรือว่านายคุรุจิต นาครทรรพ บอร์ดใหม่ซิงๆ ของปตท. หรือผู้เคยอยู่ก่อนเก่าก็ไม่ได้แตกต่างกัน และเมื่อเป็นเช่นนี้ จะปฏิเสธได้อย่างไรว่าพวกเขาเหล่านั้น ไม่ว่าจะสวมหมวกใบไหนต่างก็ทำตัวเป็น “ตัวแทน” กลุ่มทุนพลังงานทั้งสิ้น ไม่เห็นความหวังว่าจะล้าง ปตท. ให้เป็นพลังงานเพื่อชาติ หรือพลังงานเพื่อประชาชน แม้แต่น้อย กี่ปีกี่ชาติมาแล้วที่ประชาชนชอกช้ำซ้ำถูกโจรใส่สูทปล้นกลางแดดจนเหลือ แต่โครงกระดูก ...
::: ปัญหาของกลุ่มคนที่ต่อต้านนายปิยสวัสดิ์ หรือตั้งคำถามกับนายปิยสวัสดิ์และพวก กับกลุ่มที่หนุนหลังนายปิยสวัสดิ์อยู่นั้น ไม่ใช่ปัญหาเรื่องข้อมูล-ข้อเท็จจริง ที่แตกต่างกันมากอย่างที่ เปลว สีเงิน เข้าใจ เพราะข้อมูลที่ยกมาอ้างอิงนั้นมาจากแหล่งเดียวกันคือ หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบด้านพลังงาน เป็นข้อมูลของกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ บมจ.ปตท, และบริษัทผู้รับสัมปทาน และข้อมูลเปรียบเทียบกับการบริหารจัดการด้านพลังงานของประเทศอื่นๆ ดังนั้น ถ้าเปิดใจให้กว้าง ศึกษาทัศนาข้อมูลที่ไม่ใช่จากตัวแทนกลุ่มทุนพลังงานแปลความบนจุดยืนผลประโยชน์ของกลุ่มทุนแล้วพูดกรอกหู ข่มขู่ให้กลัวและให้เชื่อฟังมาโดยตลอด ประชาชนคนไทยก็จะได้หูตาสว่างกว้างขวางมากขึ้นว่าโลกเขาไปถึงไหนๆ กันแล้ว ...
::: แต่ก็อย่างว่า ทุนเงินหนาอย่างกลุ่มพลังงาน มีหรือที่จะยอมให้ข้อมูลและแนวคิดต่างมีพื้นที่ ดังจะเห็นได้จากบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลาย ต่างก็ทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่มทุนพลังงานเกือบทั้งสิ้นเพราะเงินค่าโฆษณา สปอนเซอร์กิจกรรม มันอุดปากให้พูดไม่ออกหรือพูดอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากว่าไปตามสคริปต์ที่พวกทุนพลังงานใส่โปรแกรมเอาไว้ให้ อาจจะไม่ยกเว้นแม้กระทั่งไทยโพสต์เองก็ตาม ไม่ต้องพูดถึงค่ายสื่อใหญ่ทั้งทีวี สิ่งพิมพ์ หรือกระทั่งแกนนำแดงฮาร์ดคอร์อย่าง "ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ - เต้น ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" ก็ยังเอากะเขาด้วย ...
::: ช่วงก่อนหน้า ที่กลุ่มก ปปส.ชุมนุม มวลมหาประชาชนก็สังเวชใจไปกับการออกมาป้องทุนพลังงานของค่ายวอชท์ด็อก กระทั่งทำให้ประเด็นเรื่องปฏิรูปพลังงานไม่อยู่ในวาระปฎิรูปประเทศ คุ้ยแคะลงไปก็ได้เห็นว่าค่ายวอชท์ด็อกของอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รับสปอนเซอร์จากปตท.ทุนใหญ่พลังงานมาแล้ว คราวนี้ ประชาชนผู้เสพข่าวสารก็ได้เห็นธาตุแท้วิญญูชนจอมปลอมของนักหนังสือพิมพ์ใหญ่กันบ้างจากกรณีโดดป้องนายปิยสวัสดิ์ เป็นขวัญหูขวัญตา ...
::: แล้วยังชูรักแร้เชียร์ว่า ฝ่ายปิยสวัสดิ์ มีแนวทางแก้ปัญหาที่ไม่ได้เน้นราคาถูก-ราคาแพง แต่เน้น “ราคาเป็นจริง” ตามกลไกตลาด เพราะถ้าอุ้มกันอยู่จะไม่เป็นผลดีทำให้ผู้ใช้เคยตัวใช้น้ำมันฟุ่มเฟือยรัฐก็จะแบกภาระหนัก แล้วซัดอีกฝ่ายว่า มั่วข้อมูล "ไทย-ซาอุฯ" มีน้ำมันพอๆ กัน!? แต่ขุดเอาไปขายต่างประเทศครึ่งต่อครึ่ง บ่อน้ำมันก็เอาไปขายสัมปทานให้ต่างชาติ แทนที่คนไทยจะได้ใช้ของถูก กลับต้องใช้น้ำมันแพง อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ ตลาดโลกลวงตา ฉะนั้น ต้องยึด ปตท.กลับมาเป็นของรัฐ ราคาก๊าซ-น้ำมัน จะได้ถูกลง! ...
::: นั่นถือว่า นักหนังสือพิมพ์ใหญ่ ตกม้าตายแท้ๆ ตั้งแต่คำว่า “ราคาเป็นจริง” ตามกลไกตลาดโลกที่กลุ่มทุนพลังงานชอบอ้างว่าเพื่อจะได้ประหยัดเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว ถามกลับว่าถ้ามีบางส่วนขุดเจาะและผลิตได้ในประเทศอยู่ด้วยแต่กลับต้องซื้อขายกันในราคาตลาดโลก ถ้าไม่เช่นนั้นสู้นำเข้ามาหมดแล้วเก็บทรัพยากรปิโตรเลียมไว้ให้ลูกหลานไม่ดีกว่าหรือเพราะไหนๆ ก็ต้องซื้อน้ำมันในราคาตลาดโลกอยู่แล้ว ส่วนเม็ดเงินที่ว่ารัฐฯเอามาอุ้มราคาพลังงานนั้น เป็นการล้วงกระเป๋าซ้ายขวาของประชาชนผ่านทางกองทุนน้ำมัน เป็นการช่วยเหลือกันเองระหว่างประชาชนทั้งนั้น หน้าไหนก็อย่ามาตีมึนเอาหน้าหาคะแนนเสียง ...
::: ส่วนที่ซัดอีกฝ่ายว่าที่ว่าไทย-ซาอุฯ มีน้ำมันพอๆ กันนั้น ประเด็นนี้ หม่อมหลวงกรณ์ กสิวัฒน์ เกษมศรี ตัวแทนกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงาน (จปพ.) ยืนยันมาตลอดว่าไม่เคยระบุว่าไทยมีการผลิตน้ำมันมากกว่าซาอุฯ หรือพอๆ กับซาอุฯ แต่เสนอว่าหากการขุดเจาะและการ ผลิต น้ำมันในประเทศไทยแล้วส่งออกอิงราคาตลาดโลกจนทำให้คนไทยใช้เชื้อเพลิงในราคาไม่ต่างจากการนำเข้า ก็เห็นว่าไม่ควรที่จะผลิตในประเทศและเก็บทรัพยากรปิโตรเลียมเหล่านี้ไว้ใช้ในอนาคตจะดีกว่า ...
::: "สาเหตุหลักที่ไทยต้องส่งออกน้ำมันไม่ใช่เพราะน้ำมันไม่มีคุณภาพจนใช้ในประเทศไม่ได้ แต่เพราะตามสัญญาขุดเจาะน้ำมันทำให้บริษัทมีสิทธิ์ในการส่งออก ซึ่งในส่วนของปิโตรเลียมในประเทศหากขุดเจาะแล้วส่งออกโดยอ้างอิงตลาดโลกจนทำให้คนในประเทศใช้เชื้อเพลิงในราคาแพง อยากเสนอให้หยุดผลิตในประเทศและนำเข้าทั้งหมด เพราะราคาเชื้อเพลิงใกล้เคียงกันอยู่แล้ว" หม่อมหลวงกรณ์กสิวัฒน์ กล่าวย้ำ 
::: จุดยืนที่ชัดเจนของกลุ่มจปพ.ที่นักหนังสือพิมพ์ใหญ่ควรตระหนัก ก็คือว่าพวกเขาไม่ได้สู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่สู้เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน หลุดพ้นจากการถูกขูดรีดเพื่อความมั่งคั่งของปตท. และกลุ่มทุนพลังงานข้ามชาติ ...
::: อย่างที่หม่อมหลวงกรณ์กสิวัฒน์ โฟสต์ไว้หลังเข้าร่วมงานสัมมนาเรื่องปฏิรูปพลังงาน : โอกาสและความท้าทายหลังรัฐประหาร เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2557 ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า “ผมชี้ให้เห็นว่า พ่อของแผ่นดินนำสมบัติที่บรรพชนเฝ้ารักษามาพระราชทานให้แก่ลูกทั้งแผ่นดินแล้ว แต่ด้วยจัดการของผู้จัดการมรดก(นักการเมือง+ข้าราชการ) สมบัติจึงไม่ถึงมือประชาชน ...
::: ความแตกต่างของเราภาคประชาชน กับ กลุ่มข้าราชการ นักการเมือง+นักธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องข้อมูล เพราะผมใช้ข้อมูลของรัฐ แต่หลักคิดต่างหากที่แตกต่างกัน ผมคิดว่าประชาชนทุกคนคือเจ้าของทรัพยากร การวางนโยบายของรัฐที่ดีจึงควรเอาประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง กลุ่มข้าราชการ นักการเมือง+นักธุรกิจ (บางคน) เขาคิดว่า ทรัพยากรเป็นของเอกชน (ก็เพราะรัฐให้สัมปทานไปแล้ว) ดังนั้น เขาก็ต้องมาขายให้เราในราคาตลาดโลกเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ...
::: เอกชนคิดแบบนี้ เราคงว่าเขาไม่ได้เพราะเขาต้องทำกำไรสูงสุด แต่ถ้ารัฐคิดแบบนี้นี่สิน่าตกใจ ว่าท่านไม่คำนึงถึงบรรพชนของไทยบ้างหรือไร? ที่สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อคนรุ่นหลัง แต่วันนี้สมบัติถูกโอนให้เอกชนโดยเฉพาะต่างชาติ เงินกำไรจากการขุดก๊าซและน้ำมันเกินครึ่งไหลไปสหรัฐฯ ...
::: การให้สัมปทานไปวันนี้ ทรัพยากรต่างชาติเอาไปหมด แล้วเอาก๊าซกลับมาขายคนไทยแพงกว่าราคาตลาดนิวยอร์ก แล้วคนไทยต้องเสียภาษีบนทรัพยากรตัวเองอีกรอบ ผมว่านี่คือกับดักความยากจนที่แท้จริง ซึ่งผู้มีอำนาจควรต้องตระหนัก หากอยากแก้ปัญหาความยากจน ต้องแก้ปัญหาทรัพยากรก๊าซและน้ำมันใต้แผ่นดินไทยครับ ...
::: "วันนี้ คนไทยไม่ได้หวังราคาพลังงานถูกแบบประชาชนนิยม แต่สิ่งที่คนไทยต้องการเห็นคือราคาพลังงานที่เป็นธรรมกับเจ้าของทรัพยากร อีกทั้งรายได้เข้าประเทศที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อกลับมาเป็นโรงเรียน โรงพยาบาลที่เพียงพอให้กับประชาชน...ลูกของแผ่นดินไทยครับ" ...
::: หวังว่าคงชัดเจนในจุดยืนและหลักคิดที่แตกต่างสำหรับการจัดการทรัพยากรปิโตรเลียมของแผ่นดิน และการกำหนดราคาพลังงานของประเทศ ระหว่างกลุ่มของนายปิยสวัสดิ์ กับกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงาน ...
::: ในงานสัมมนาข้างต้น นางสาวรสนา โตสิตระกูล ตัวแทนกลุ่มจปพ. ยังเน้นย้ำว่า การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนที่ผ่านมา ต้องการให้รัฐคงสัดส่วนการถือหุ้นในปตท.ในระดับสูงเพื่อให้การบริหารระดับราคาพลังงานเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน แต่จากการติดตามแนวทางปฏิบัติงานของ คสช. เกี่ยวกับการปฏิรูปพลังงาน เริ่มไม่แน่ใจ และกังวลว่าที่สุดการทำรัฐประหารครั้งนี้จะนำมาซึ่งการแปรรูปปตท. ด้วยการขายหุ้นรัฐทิ้งไปกลายเป็นบริษัทเอกชน 100% ...
::: ส่วนกรณีประธานบอร์ด ปตท. เสนอให้รัฐลดการถือหุ้นใน ปตท. เพื่อลดการล้วงลูก มองว่าแม้กระทรวงการคลังจะขายหุ้น ปตท. ก็คงไม่มีประโยชน์ ตราบใดที่ยังไม่มีการแยกธุรกิจท่อก๊าซจาก ปตท. ซึ่งหลังการแปรรูปทรัพยากรท่อก๊าซฯ ควรเป็นของภาครัฐ 100% แต่ตอนนี้ผลประโยชน์ยังตกเป็นของ ปตท.อยู่เช่นเดิม ...
::: นอกจากนั้น ทางกลุ่มยังจับตาบทบาทของ คสช. ในการปฏิรูปพลังงาน โดยยอมรับว่าเริ่มกังวลใจที่ตัวแทนจากคสช. 2 ท่าน คือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช. ดูแลฝ่ายเศรษฐกิจ และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ได้เข้าไปเป็นกรรมการ หรือบอร์ดปตท. เพราะการทำงานที่โปร่งใส ควรจะบริหารและสั่งการจากภายนอกจะเหมาะสมกว่า
::: คสช. อย่าลืมว่าปัญหาเรื่องพลังงานที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นเรื่องใหญ่ และในเมื่อยึดอำนาจเข้ามาโดยอ้างว่าเพื่อลดความแตกแยก สร้างความปรองดอง เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ก็ควรตระหนักอย่างสำคัญด้วยว่าการปฏิรูปประเทศไทย หัวใจคือปฏิรูปพลังงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เพื่อปตท. หรือเพื่อทุนพลังงานข้ามชาติ ! ...



เอามาบอกให้รับรู้..ไม่ใช่สร้างภาพ แต่เป็นเรื่องจริง
"ตามจังหวะที่"คสช.กำลังเดินหน้าจัดระเบียบการบริหารงานรัฐวิสาหกิจ ที่กลายเป็นแหล่งขุดทองของพวกที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ ตามมูลค่ารวมของรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงานมากมายมหาศาลกว่า 10 ล้านล้านบาท มากกว่าเงินคงคลังของประเทศที่มีแค่สองแสนกว่าล้านเท่านั้น
งานนี้จึงจำเป็นต้องลุยยกเครื่องรัฐวิสาหกิจก่อนเดินเครื่องปฏิรูปประเทศไทย
โดยโปรแกรมต่อเนื่องหลังปฏิบัติการลุยแดนสนธยา คสช.สั่ง “ทุบหม้อข้าว” บอร์ดการบินไทย
ล่าสุดข้อมูลจากกระทรวงการคลัง แฉสิทธิประโยชน์ของบอร์ดธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฯลฯ
ผลาญกันอู้ฟู่ เดือนละ 3-4 แสนบาทต่อคน
เบิกกันดะทั้งค่าตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสไปดูงานต่างประเทศ ค่าเลี้ยงรับรองลูกค้า แม้แต่ค่าออกรอบตีกอล์ฟก็เบิกจ่ายกันตามอำเภอใจ
เสวยสุข อยู่ดีกินดีไม่แพ้บอร์ดการบินไทย
ในอารมณ์หักมุมกันอย่างสิ้นเชิงกับ “บิ๊กตู่” ที่ตอนนี้ต้องนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานซุปเปอร์บอร์ดในหลายหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สำคัญที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ประชุมติดต่อกัน แทบไม่มีวันหยุด
แต่มีประเด็นที่ไม่ได้นำเสนอเป็นข่าว เพียงแค่เล่าสู่กันฟังในหมู่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องว่า ภายหลังประชุมทุกครั้ง หัวหน้าคสช.จะเอาเงินค่าเบี้ยประชุมใส่ซองคืนหน่วยงาน ไม่รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด
แน่นอนไม่ใช่เรื่องสร้างภาพ เพราะเป็นข้อมูลวงในที่ไม่ได้ตีปี๊บโพนทะนาเอาหน้ากัน
มันเป็นเรื่องสามัญสำนึกของคนที่ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองจริงๆ
ที่สำคัญ นี่คือสิ่งที่สะท้อนพื้นฐานกระบวนการคิดลึกๆของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาสาเข้ามายกเครื่องประเทศไทย ล้างระบบเน่าๆ นำสังคมไทยกลับสู่ความสงบเรียบร้อย
โดยไม่มีวาระแฝงเรื่องผลประโยชน์
แม้แต่ผลตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ. "

ใกล้คลอดเต็มทนสำหรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ตามที่ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยออกมาเปิดเผยว่าไม่เกินเดือน ก.ค. 2557 จะมีการประกาศ ล่าสุด ในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. แถลงยอมรับว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จะมีไม่เกิน 50 มาตรา ซึ่งจะประกาศใช้ให้ทันก่อนมีรัฐบาลในเดือน ก.ย. ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมีการกำหนดข้อจำกัดการบริหารงานของรัฐบาลในบางประการ “หากใช้วิธีการบริหารราชการปกติทุกเรื่องอย่างที่ทุกคน หลายๆ ฝ่ายต้องการ ก็จะแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ได้แน่นอน ฉะนั้นจะไม่เกิดประโยชน์ ต้องให้เวลา คสช.ให้โอกาส และเครื่องมือในการทำงานนี้ด้วย เรื่องอำนาจ คสช. และรัฐบาล มีการตรวจสอบถ่วงดุลกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว หัวหน้า คสช.แจกแจงว่า รัฐบาลจะเน้นหนักไปที่การบริหารราชการ ส่วนงานด้านความมั่นคงจะเป็นหน้าที่ คสช.ดูแลรับผิดชอบ “สำหรับความร่วมมือระหว่าง 2 ฝ่าย คือ การหารือร่วมประชุมและแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลกัน มีการประชุมเมื่อจำเป็น และเสนอแนะข้อพิจารณาต่างๆ ให้รัฐบาลนำไปสู่การปฏิบัติในเรื่องอื่นๆ เป็นไปในลักษณะคำแนะนำที่ คสช.จะมีต่อรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณถึงทุกหมู่เหล่าในการเตรียมปฏิรูปประเทศ หลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะมีสภาปฏิรูปแห่งชาติจำนวน 250 คน “ต้องการให้ทุกส่วนมีการเตรียมการจัดผู้แทนเพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปในระยะที่ 2 โดยจะมีกระบวนการคัดสรรที่กำหนดไว้แต่เดิมประมาณ 11 กลุ่ม น่าจะประมาณ 550 คน และจะต้องไปเพิ่มเติมในส่วนของการคัดเลือกจากจังหวัดต่างๆ ด้วย เพื่อเป็นผู้แทนจังหวัด น่าจะจังหวัดละ 5 คน รวมเป็น 380 คน”

MANA PRADITKET

MANA PRADITKET
Handpainted oil painting by Mana Praditket

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
Original handpainted oil painting by Niran Paijit

PRAYAD TIPPAWAN

PRAYAD TIPPAWAN
ORIGINAL IMPRESSIONAL OIL PAINTING BY PRAYAD TIPPAWAN

Achara 34 (24x36)

Achara 34 (24x36)
ORIGINALl OIL PAINTING

Amornsak Livisit 74 (24x36)

Amornsak Livisit 74 (24x36)
ORIGINAL OIL PAINTING, Impressionist style

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)

Suwan Khanboon 11 (24x24 inches)
Original handpainted oil painting abstract style

NIRAN PAIJIT

NIRAN PAIJIT
ORIGINAL ABSTRACT STYLE OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT

Chavalit (Pong)

Chavalit (Pong)
PINTO Horses

Komez 78 (22x30)

Komez 78 (22x30)
Original handpainted pastel painting on paper

KOMES

KOMES
Handpainted pastel painting by Komez

PRATHOUN

PRATHOUN
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY PRATHOUN

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
ORIGINAL OIL PAINTING BY THAVORN IN-AKORN (SIZE 20x30")

THAVORN IN-AKORN

THAVORN IN-AKORN
Original oil painting by Thavorn In-akorn

Facebook


ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING

PHOTO GALLERY

PHOTO GALLERY

Facebook

PHOTO GALLERY